
“แค่รู้สึกไปกับมัน!” เพลงใหม่ของ BIG Naughty - ‘MUSIC (feat. LEE CHANHYUK)’ ที่สร้างขึ้นจากช่วงเวลาพิเศษในแวนคูเวอร์
Q. ช่วยแนะนำตัวเองแบบสั้นๆหน่อยค่ะ
สวัสดีครับ! ผม BIG Naughty ครับ
Q. มีคำหรือวลีที่สามารถอธิบายตัวตนของ BIG Naughty ได้ไหมคะ?
ก็คงเป็น “นักร้องนักแต่งเพลง”? (หัวเราะ) คือพูดเองแล้วเขินน่ะครับ ผมคือ BIG Naughty นักร้องนักแต่งเพลงครับ
Q. เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว ตอนนี้ช่วงต้นฤดูร้อนปี 2025 ใช้ชีวิตยังไงบ้าง?
ตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนปีที่แล้วจนถึงไม่นานมานี้ ผมอยู่ที่แวนคูเวอร์มาตลอดเลยครับ พึ่งกลับมาเกาหลีได้ไม่กี่วันเอง การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แบบว่าพูดตามตรง… ผมไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปครึ่งปีแล้ว รู้สึกเหมือนตอนนี้เพิ่งเป็นเดือนมกราคมเอง ราวกับว่ากำลังเริ่มต้นปีใหม่ตอนนี้? ถึงแม้ตอนอยู่แวนคูเวอร์ก็ทำงานเพลงตลอด แต่มันเป็นช่วงที่อยู่คนเดียวครับ พอกลับมาทำงานร่วมกับคนที่เคยร่วมงานกันมาก่อน ความรู้สึกและพลังงานมันเปลี่ยนไปจริงๆ ตอนนี้ก็เหมือนได้เติมพลังอีกครั้ง จากการขึ้นแสดงและกิจกรรมต่างๆ หลังจากห่างหายไปเกือบปีครับ
Q. เวลาที่ใช้ในแวนคูเวอร์น่าจะส่งผลต่อดนตรีของคุณไม่น้อยเลย
แน่นอนเลยครับ ตอนอยู่ที่เกาหลี ผมต้องยุ่งกับการแสดง ตารางงาน และการทำอัลบั้ม จนรู้สึกว่าทุกอย่างวุ่นวายไปหมดเลย บางวันก็เหมือนเวลาเดินเร็วขึ้น 10 เท่า รู้สึกเหมือนวันหนึ่งหายไปหมดเลย แล้วพอมีวันหยุด ดันกลับรู้สึกเฉื่อยจนเหมือนเวลาเดินช้าลงเหลือ 0.1 เท่า แต่ตอนอยู่ที่แวนคูเวอร์ เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใช้เวลาในจังหวะ 1 เท่าจริงๆ อย่างผ่อนคลาย ใช้เวลาที่เป็นของผมจริงๆ แบบนั้นมันค่อยๆซึมเข้าไปในงาน ทำให้เพลงที่ออกมารู้สึกเป็นธรรมชาติมากขึ้น กลมกลืนและมีชีวิตมากขึ้นเลยครับ เพลงใหม่ล่าสุดก็เช่นกัน มันเกิดขึ้นจากอารมณ์ที่มาก่อนความคิด เป็นเพลงที่สร้างขึ้นจากสัญชาตญาณครับ
Q. ช่วยแนะนำเพลงใหม่ ‘MUSIC (Feat. LEE CHANHYUK)’ หน่อยค่ะ
เพลงนี้มีความหมายว่า “อย่าปล่อยให้มาตรฐาน คำตัดสิน หรืออคติใดๆ มาสั่นคลอนเรา — ขอแค่สนุกไปกับดนตรีอย่างตรงไปตรงมา” ตอนเริ่มต้นเพลงจะเป็นอารมณ์แบบบลูส์ แต่แม้ทิศทางจะเปลี่ยนไปในระหว่างที่แต่งเพลง ผมก็อยากให้ยังหลงเหลือกลิ่นอายตรงนั้นอยู่ โดยเฉพาะท่อนเนื้อเพลงที่ว่า “แค่รู้สึกไปกับมัน” — มันอาจฟังดูเลี่ยนๆ แต่ผมอยากใส่ลงไป เพราะรู้สึกว่าเป็นข้อความที่จำเป็น ทั้งสำหรับตัวผมเองและคนที่ฟังเพลงนี้ครับ ทุกวันนี้ผู้คนต้องเจอกับการตัดสินมากมายจนไม่กล้าเผยความชอบของตัวเองออกมา ผมแค่อยากให้คุณฟังเพลงนี้แบบไม่ต้องคิดมาก แค่รู้สึกไปกับมัน เนื้อเพลงอาจดูเหมือนเขียนลวกๆ แต่จริงๆ มันคือความรู้สึกจริงๆของผมครับ
Q. แล้วมีอะไรที่แตกต่างจากเพลงก่อนๆ บ้างไหมคะ?
‘MUSIC (Feat. LEE CHANHYUK)’ อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเส้นทางดนตรีผมเลยก็ได้ครับ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและมีความคาดหวังแบบตอนที่เพิ่งเริ่มทำเพลงใหม่ๆอีกครั้ง คล้ายกับตอนมีรักแรก มันเข้มข้นและเต็มไปด้วยอารมณ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจจะค่อยๆจืดจาง ผมเคยคิดว่าการทำเพลงก็เป็นแบบนั้น แต่เพลงนี้กลับมาทำลายความคิดนั้นไปเลย มันเหมือนเป็นเพลงที่ไหลออกมาอย่างเป็นธรรมชาติในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เหมือนกับโชคชะตาเลยครับ
Q. ได้ยินว่าคุณถึงขั้นเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำเพลง?
ใช่ครับ ผมถึงกับทิ้งอุปกรณ์ในห้องทำงานทั้งหมดเลย เพราะรู้สึกว่าตัวเองติดอยู่ในกิจวัตรเดิมซ้ำๆ ผมยังเอาไมโครโฟนไปแช่ในอ่างล้างหน้าด้วยนะ (หัวเราะ) แอบตลกร้ายตรงที่ตั้งแต่นั้นมาผมกลับเริ่มหลงรักเสียงดนตรีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก พอถอยห่างออกมาหนึ่งก้าว กลับรู้สึกว่าตัวเองรักมันลึกซึ้งขึ้น ทุกวันนี้ผมอยู่กับดนตรีแบบเป็นมิตรมาก ไม่ต้องเค้นหรือกดดันอะไรเลย จังหวะบีทต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาเองอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อก่อนผมเคยรู้สึกว่า “ต้องรีบทำอัลบั้มให้เสร็จ” เหมือนมีความกดดันอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า ต่อให้ใช้เวลากับเพลงหนึ่งนานเป็นปี ก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายแล้ว ทุกคนมีจังหวะของตัวเองครับ
Q. แล้วในเรื่องของแนวเพลง คุณนิยามดนตรีของ BIG Naughty อย่างไรตอนนี้?
แนวเพลงมันมีอยู่จริง และเราก็ไม่สามารถละเลยขอบเขตของมันได้ทั้งหมดหรอกครับ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีความรู้สึกอยากจะท้าทายหรือข้ามขีดจำกัดพวกนั้น เพราะบางครั้งขอบเขตเหล่านี้ก็กลายเป็นสิ่งที่ขัดขวางโอกาสใหม่ๆ ด้วย ผมเลยอยากทดลองสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ เพลงนี้เองก็ไม่ได้ทำกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพ แต่มาจากการเล่นสนุกกับนักดนตรี เช่น มือกลอง มือกีตาร์ ฯลฯ พอได้ทำงานร่วมกับพวกเขา เสียงดนตรีก็มีมิติมากขึ้นจนบางทีผมเองยังคิดว่า “นี่มันเพลงวงดนตรีเปล่านะ?” เลยครับ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเพลงนั้นจัดอยู่ในแนวไหน แต่คือ “เพลงนั้นดีไหม?” ต่างหาก ถ้าเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกได้เลยโดยไม่ต้องคิดเยอะ แบบนั้นแหละครับที่ผมมองว่าเป็น “เพลงที่ดี”
Q. มีศิลปินคนไหนที่คุณอยากร่วมงานด้วยในอนาคตไหม?
ถ้าให้พูดจากใจของแฟนคลับเลยนะครับ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือยังไง ผมก็เลือก BIGBANG แน่นอน บางครั้งตอนที่แต่งเพลง ผมก็คิดว่า “เพลงนี้ถ้า BIGBANG ร้องคงจะดีมากเลยนะ” ถึงจะไม่มีทางเกิดขึ้นจริงก็เถอะ ต่อให้ Drake, Justin Bieber หรือ Taylor Swift มาช่วยฟีเจอริ่ง ผมก็ยังเลือกทำงานกับ BIGBANG อยู่ดีครับ (หัวเราะ) นี่พูดจากใจจริงเลยนะครับ
Q. เห็นว่าช่วงนี้ไปแสดงบนเวทีต่างประเทศบ่อยๆ อย่าง KCON JAPAN ด้วย เวทีต่างประเทศเป็นยังไงบ้าง?
แฟนๆ ชาวญี่ปุ่นจะตั้งใจดูอย่างลึกซึ้ง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกจริงใจ ทำให้ผมรู้สึกดีมากเวลาอยู่บนเวที มันทำให้ผมได้สัมผัสว่าความรู้สึกสามารถส่งถึงกันได้แม้จะต่างภาษา แล้วตอนที่ไปแสดงที่จาการ์ตา ผมยังจำได้ว่ามีแฟนๆมารอรับที่สนามบิน ตอนนั้นยังคิดเลยว่า “เขารู้จักผมได้ยังไงนะ?” ทั้งรู้สึกประหลาดใจและขอบคุณจริงๆ แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกถึงความรับผิดชอบมากขึ้นด้วยครับ
Q. มีประเทศที่อยากลองไปแสดงที่นั่นสักครั้งหรือเปล่า?
ผมอยากขึ้นเวทีที่คลับแจ๊สอย่าง “Blue Note” ในโตเกียวครับ ถึงจะเงียบสงบแต่ก็เต็มไปด้วยผู้ชมที่ตั้งใจรับชมรับฟัง อยากเห็นการตอบสนองของแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นแบบสดๆเลย แค่คิดก็รู้สึกมีความสุขแล้วครับ
Q. อยากให้แฟนต่างชาติจดจำคุณผ่านเพลงแบบไหน?
ไม่เป็นไรเลยถ้าไม่เข้าใจเนื้อเพลง เพราะแค่เสียงดนตรีก็สามารถสื่ออารมณ์ได้มากพอแล้วครับ ถ้าใครได้มาเที่ยวเกาหลี แล้วเปิดเพลงของผมเป็นแบ็กกราวด์ในระหว่างเดินทาง คิดว่ามันจะเข้ากันได้ดีเลยนะครับ แล้วก็หวังว่าสักวันจะได้ไปเจอแฟนๆด้วยตัวเองในการแสดงสดในต่างประเทศครับ
Q. แล้วแผนการทำกิจกรรมที่เหลือของปี 2025 ล่ะคะ?
ผมอยากลองทำกิจกรรมโดยเน้นไปที่ short-form คอนเทนต์ครับ ถึงนิสัยส่วนตัวจะไม่ค่อยเหมาะกับพวกชาเลนจ์ แต่ถ้าจำเป็นก็พร้อมจะลองครับ แต่อยากทำในแบบที่สนุกได้จริงๆ มากกว่าฝืนทำ โดยเฉพาะคอนเทนต์แบบนี้ แฟนต่างชาติก็เข้าถึงง่าย ผมเลยตั้งใจจะใส่ซับไตเติลภาษาอังกฤษลงในคลิปด้วย เพื่อให้สื่อสารกันได้สะดวกมากขึ้น จะเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ค่อยๆพัฒนาขึ้นไปครับ!
Q. สุดท้ายนี้ ในฐานะนักสะสมคำคม มีประโยคไหนที่ BIG NAUGHTY ชอบช่วงนี้ และอยากฝากถึงผู้ติดตาม Kitto บ้างไหม?
เป็นประโยคจากจากภาพยนตร์เรื่อง Rebound ครับ “ในเกมบาส มีหลายครั้งที่ลูกไม่ลงห่วง แต่ในช่วงเวลาแบบนั้น ถ้าคุณพยายามมากพอ โอกาสจะกลับมาอีกครั้ง นั่นแหละคือรีบาวด์” มันตรงกับสถานการณ์ของผมเลยครับ เพราะในดนตรีก็ไม่มีทางที่จะไปได้สวยตลอดเวลา ถ้ามันยังไม่สำเร็จ ก็จะพยายามรีบาวด์ให้ได้ ไม่ยอมแพ้ แล้วคว้าโอกาสอีกครั้งให้จงได้
Kitto สัญญาครับ! ว่าจะตั้งใจ! ทำเพลงที่ดียิ่งขึ้นให้ทุกคนได้ฟังกันแน่นอนครับ
Editor : Hwang Hye Jin, Mori Chihiro, Lee Eo Jin, Kim Ga Eun
Photographer : Wang Seung Hyun
Translation : Monsicha Butsoontorn
สนุกดี
0
เห็นด้วย
0
คาดหวัง
0
ได้รับความช่วยเหลือ
0